มะเร็งผิวใกล้ตัวกว่าที่คิด

หน้าหลัก » บทความสุขภาพ » Knowledge » มะเร็งผิวใกล้ตัวกว่าที่คิด
ที่มา : bekiasalud.com

มะเร็งผิวใกล้ตัวกว่าที่คิด

     ช่วงหลังๆ มานี้มีการพูดถึงโรคมะเร็งกันมากสารพัดชนิด ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือ โรคมะเร็งที่เกิดเฉพาะ เพศหญิง เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น แต่มักไม่ค่อยมีคนรู้จักหรือได้ยินโรคมะเร็งชนิดที่เกิดกับผิวหนังคือ โรคมะเร็งผิวหนัง ซึ่งในความเป็นจริง โรคมะเร็งนั้นสามารถเกิดได้ทุกที่ในร่างกาย รวมทั้งบริเวณผิวหนังของคนเราด้วย แต่คนส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงคำว่ามะเร็งแล้ว จะมีความกลัวเกิดขึ้นมาทันที ถ้าเป็นขึ้นมาเมื่อไรก็วิตกจริต กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เอาแต่เพ้อว่าต้องตายแน่นอน! แต่สำหรับมะเร็งผิวหนังแล้ว โดยสถิติที่พบจะไม่ค่อยรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตเหมือนมะเร็งชนิดอื่นๆ

แล้วมะเร็งผิวหนังคืออะไร? อันตรายแค่ไหน?

     มะเร็งผิวหนังเป็นมะเร็งชนิดที่ไม่ทำให้มีอัตราการตายที่สูงมากนัก เหตุผลง่ายๆ เพราะมันเกิดที่ผิวหนัง ส่วนมากเจริญเติบโตในชั้นหนังกำพร้า เราจึงสามารถเห็นได้ด้วยตาและจัดการกับมัน หรือเอาออกได้ไม่ยาก แค่ตัดชิ้นเนื้อขนาด 4-5 มิลลิเมตรไปตรวจ 2 สัปดาห์ก็รู้ผลแล้วว่าเป็นเชื้อมะเร็ง หรือไม่ ซึ่งจะไม่เหมือนกับพวกมะเร็งตับที่บางคนพอเจอก็อยู่ในขั้นรุนแรง หรือขั้นสุดท้ายทำอะไรไม่ได้แล้ว โดยมะเร็งผิวหนังเป็นมะเร็งที่เจริญช้าๆ อย่าง ไร้ทิศทาง มีการแพร่กระจายไปทางกระแสเลือดและต่อมน้ำเหลืองน้อยมาก มักพบบริเวณศีรษะ คือ ประมาณ 80-90% และที่ใบหน้า 65% ได้แก่ ตา หู จมูก การรักษามะเร็งผิวหนังจะได้ผลดีถ้าพบในระยะแรกเมื่อเริ่มมีอาการ ถึงแม้ว่า มะเร็งผิวหนังจะพบได้ไม่บ่อยก็อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ และในทาง กลับกัน หากรักษาตั้งแต่เริ่มต้นก็จะหายขาดได้
     ในประเทศไทยพบมะเร็งผิวหนังน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งๆ ที่เราเป็นเมืองที่มีแสงแดดจัดซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของมะเร็งผิวหนัง อาจเป็นเพราะ ผิวหนังของคนไทยมีเม็ดสีเมลานินที่ช่วยป้องกันอันตรายจากแสงแดดได้มากกว่าคนผิวขาว

สาเหตุการเกิดมะเร็งผิวหนัง

1. การถูกแสงแดดมากเกินไป เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแดดในช่วงเวลา 10.00-15.00 น.ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีความเข้มข้นของรังสีอัลตร้าไวโอเลตสูงสุด ดังนั้นผิวหนัง ในบริเวณที่ถูกแสงแดดมาก จะมีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังมากกว่าส่วนอื่นที่มักไม่ค่อยสัมผัสกับแสงแดด
2. การได้รับหรือสัมผัสกับสารเคมีบางชนิด เช่น การได้รับสารหนูในปริมาณสูงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาที่มีส่วนผสมของสารหนู ทั้งยาลูกกลอนยาสูตรแผนโบราณ ยาจีน หรือการสัมผัสกับสารหนูที่ปะปนมากับน้ำ? ซึ่งถ้ารับประทานไปนานๆ หรือสัมผัสสารพวกนี้ จะทำให้เป็นโรคผิวหนัง และกลายเป็นมะเร็งได้ในที่สุด
3. แผลเรื้อรัง หรือระคายเคืองเป็นเวลานานๆ เนื่องมาจากแผลเรื้อรังจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของยีน โดยมีการทำลายยีนที่ควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังตามปกติ
4. มีประวัติหรือคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง

อาการที่สังเกตพบได้

     มีไฝ หูด ปาน ผื่น หรือ ก้อนที่เคยมีอยู่ จะมีสี และรูปร่างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีอาการคันแตกเป็นแผล มีเลือดออก หรือ มีผื่นหรือก้อนที่เกิดขึ้นใหม่ และไม่หายใน 4-6 สัปดาห์ รวมไปถึงแผลเรื้อรัง ไม่หายภายใน 4-6 สัปดาห์ เช่นกัน

วิธีป้องกัน และปฏิบัติเพื่อไม้ให้เกิดมะเร็งผิวหนัง

1. เนื่องจากแสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังเราควรหลีกเลี่ยงแสงแดดซึ่งมีวิธีปฏิบัติดังนี้
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมใดๆ กลางแจ้ง ในช่วงเวลาประมาณ 10.00-15.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่แสงแดดแผ่รังสีสูงสุด
- ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF มากกว่าหรือเท่ากับ 15 โดยใช้ทาก่อนออกแดด 15 นาที และหลังว่ายน้ำหรือออกกำลังกายควรทาครีมกันแดด ซ้ำอีกครั้ง
- ก่อนออกนอกจากบ้านควรสวมหมวกปีกกว้าง และใส่เสื้อปกปิดเพื่อป้องกันแสงแดด
- ไม่ควรรับวัฒนธรรมต่างชาติที่ชอบอาบแดดให้เป็นสีแทน เพราะเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องว่า การมีสีแทนเป็นสัญลักษณ์ของการมีสุขภาพดี และการมีปัญญาไปเที่ยวตากอากาศต่างแดน ด้วยความที่ไม่รู้ตัว เพราะเหตุนี้ฝรั่งผิวขาวจึงเป็นมะเร็งผิวหนังกันมาก
2. ดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลิกพฤติกรรมที่เสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งได้ เช่น สูบบุหรี่ ดื่มสุรา โดยเฉพาะสูบบุหรี่ เพราะอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง ที่สำคัญยังป้องกันการเกิดโรคมะเร็งปอดอีกด้วย
3. ผู้ป่วยที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งผิวหนัง ควรมาพบแพทย์เพื่อการตรวจค้นหามะเร็งตั้งแต่ระยะแรก และหมั่นตรวจเป็นประจำทุกปี

     ที่สำคัญการรักษานั้นไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไปซื้อยาใช้เอง ไม่ว่าจำพวกยาทา หรือ อะไรก็ตาม ซึ่งอาจรักษาได้จริง แต่ก็เพียงระยะเริ่มต้นเพราะหากไม่ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องจะมีความเสี่ยงสูง ซึ่งข้อนี้สำคัญที่สุด เม็ดสีที่สงสัยว่าผิดปกตินั้นขึ้นมาได้อย่างไร ทำไมโตไว เปลี่ยนสี ขนาดรูปร่างได้อย่างรวดเร็ว ควรไปหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรงบอกคุณหมอให้ครบถึงรายละเอียดเพื่อการรักษาที่ตรงจุดและทันท่วงที

ขอขอบคุณ นิตยาสารเพื่อนแพนฉบับที่ Vol.31 No.194 ISSUE 2/2557

 


จำนวนเข้าชม 3192 ครั้ง | หมวด Knowledge | บทความโดย : Callcenter | เมื่อ : 18 กรกฎาคม 2560, 11:40:56

Health Tips Recommend

บทความโดย แพนคลินิก | 1668 views